📚 บทที่ 6: จัดแบบมีหมวด ง่ายต่อการใช้และเก็บ

สมมติว่าเช้าวันหนึ่ง คุณจะหาถุงเท้าสีดำ แต่เปิดลิ้นชักมาเจอทั้งถุงเท้า แว่นกันแดด สายชาร์จ และใบเสร็จเก่า ๆ...  ต้องใช้เวลากี่นาทีถึงจะหาเจอ? นี่ไม่ใช่ปัญหาของ “ของเยอะ” แต่เป็นปัญหาของ “ของไม่มีหมวดหมู่” 🌀

📦 บ้านที่เป็นระเบียบ ≠ บ้านที่ของน้อย
แต่คือบ้านที่ ของทุกชิ้นรู้ว่า “ตัวเองอยู่ตรงไหน”

การจัดบ้านให้เวิร์ก = การสร้าง “บ้านให้ของ” 🏠
– เมื่อของมีบ้าน → มันจะกลับบ้านได้ง่าย
– เมื่อของกลับบ้านได้ง่าย → บ้านก็จะไม่กลับมารกอีก


🧠 หลักคิด “การจัดแบบมีหมวด”

  1. 📌 จัดตาม “การใช้งานจริง” ไม่ใช่แค่ประเภทของ:
    เช่น สายชาร์จกับปลั๊กพ่วง ควรอยู่ด้วยกัน แม้จะคนละประเภท แต่ใช้พร้อมกัน
  2. 📦 ใช้กล่อง แยกหมวดในพื้นที่เดียวกัน:
    ตัวอย่างในลิ้นชักเดียวกัน อาจมี 2-3 กล่องย่อย
    • ✒️ กล่องหนึ่งใส่ปากกา
    • 🔧 กล่องหนึ่งใส่เครื่องมือ
    • 🔋 กล่องหนึ่งใส่ถ่านและอุปกรณ์ไฟฟ้าเล็ก
  3. 🏷️ ตั้งชื่อหมวดให้เข้าใจง่าย และสื่อถึงตัวคุณ:
    ไม่ต้องเป๊ะเหมือนห้องสมุด จะเรียกว่า “กล่องสายพันกัน” หรือ “ลิ้นชักของชอบ” ก็ได้ ชื่อที่คุณเข้าใจและเชื่อมโยงได้ดีที่สุด…คือชื่อที่ดีที่สุด

🗂️ ตัวอย่างหมวดเบื้องต้น

  • 🧰 ของช่างเล็ก ๆ: ไขควง เทปกาว ตลับเมตร
  • 🪙 ของจุกจิกแต่ใช้บ่อย: คลิปหนีบ เข็มกลัด ถ่าน
  • 🧴 หมวดสวยงาม: เครื่องสำอาง ครีม แปรง
  • 📦 ของสำรอง: สบู่ใหม่ กระดาษชำระ ถุงขยะ
  • 🪫 ของรอทิ้ง/รอชาร์จ: แบตเตอรี่เก่า โทรศัพท์สำรอง

🌿 แบบฝึกเบาใจ: สร้างหมวดของตัวเอง

  1. 🔍 เลือกพื้นที่เล็ก ๆ ที่ใช้งานประจำ เช่น โต๊ะทำงาน ลิ้นชักเครื่องแป้ง ตู้เก็บของเบ็ดเตล็ด
  2. 📤 หยิบของออกมาทั้งหมด แล้วจัดกลุ่มตาม “สิ่งที่ใช้ด้วยกันบ่อย”
  3. 🏷️ ตั้งชื่อหมวดแต่ละกลุ่ม เช่น:
    • 🎒 ของติดกระเป๋า
    • 🌞 ของใช้ตอนเช้า
    • 🕳️ ของที่มักหาย!
  4. 📥 จัดของใส่กล่องหรือถาด ตามหมวดที่ตั้งชื่อไว้ ถ้ามีเวลา อาจเขียนชื่อหมวดลงบนป้ายติดกล่องเล็ก ๆ

​​​​​​​


💬 บันทึกจากใจ

ของไม่จำเป็นต้องน้อย...แต่ควรเป็นระบบ เพราะ “การรู้ว่าของอยู่ที่ไหน” คือความสบายใจอย่างหนึ่ง และเป็นรากฐานของบ้านที่ “เป็นที่ของเรา” จริง ๆ 🏡